Appium เป็น Automation Framework หรือ Automation Testing Tool ที่ถูก พัฒนา ต่อ ยอด มาจาก Selenium ซึ่งจะนำมาใช้ทดสอบ application ซึ่งตัว Appium และ Selenium จะใช้ตัว webdriver สื่อสารกับ platform เหมือนกัน โดยการทำงานของ Appium จะทำงานเป็น Server ซึ่งทำการรับค่าจาก Client มาประมวณผล และส่งคำสั่งนั้นไปหา Appium driver [IOS, Android] เพื่อทำการทำตามคำสั่งที่เราส่งมาจาก client โดยจะแสดงผลในหน้าจอของ Emulator หลังจากนั้น เมื่อได้ผลลัพท์ของคำสั่งที่เราส่งไปแล้ว Appium service จะทำหน้าที่รับ response นั้นเพื่อส่งกลับไปหา Client อีกที ว่าคำสั่งที่เราส่งไปนั้นสำเร็จหรือไม่สำเร็จ
ง่ายๆเลยเหมือน Appium เหมือนตัวแปลภาษาของ Client [json] เป็น Native framework languge[ภาษาที่ส่งไปแล้ว Andriod หรือ IOS เข้าใจ]เพื่อส่งไปให้ Appium driver [IOS,Andriod] เข้าใจ ซึ่งการส่งไปให้ Andriod กับ IOS จะรับคำสั่งไม่เหมือนกัน ซึ่งในที่นี้เราจะมาสอนเกี่ยวกับการทำ Automate mobile ของ Andriod กัน
ข้อดี ข้อเสีย ของ Appium
Appium เป็น Automation Framework หรือ Automation Testing Tool ที่ถูก พัฒนา ต่อ ยอด มาจาก Selenium ซึ่งจะนำมาใช้ทดสอบ application ซึ่งตัว Appium และ Selenium จะใช้ตัว webdriver สื่อสารกับ platform เหมือนกัน โดยการทำงานของ Appium จะทำงานเป็น Server ซึ่งทำการรับค่าจาก Client มาประมวณผล และส่งคำสั่งนั้นไปหา Appium driver [IOS, Android] เพื่อทำการทำตามคำสั่งที่เราส่งมาจาก client โดยจะแสดงผลในหน้าจอของ Emulator หลังจากนั้น เมื่อได้ผลลัพท์ของคำสั่งที่เราส่งไปแล้ว Appium service จะทำหน้าที่รับ response นั้นเพื่อส่งกลับไปหา Client อีกที ว่าคำสั่งที่เราส่งไปนั้นสำเร็จหรือไม่สำเร็จ
ง่ายๆเลยเหมือน Appium เหมือนตัวแปลภาษาของ Client [json] เป็น Native framework languge[ภาษาที่ส่งไปแล้ว Andriod หรือ IOS เข้าใจ]เพื่อส่งไปให้ Appium driver [IOS,Andriod] เข้าใจ ซึ่งการส่งไปให้ Andriod กับ IOS จะรับคำสั่งไม่เหมือนกัน ซึ่งในที่นี้เราจะมาสอนเกี่ยวกับการทำ Automate mobile ของ Andriod กัน
ข้อเสีย
จากแผนภาพจะเห็นได้ว่า การที่เราจะส่ง code ไปรันที่ driver ต้องผ่านกระบวนการแปลภาษาจาก Code ที่เราเขียนไปเป็น Native framework languge เพื่อให้เครื่อง Driver สามารถทำงานได้ ทำให้ใช้เวลานานกว่าการเขียน Native framework languge แยกระหว่าง IOS กับ andriod
ข้อดี
เขียน Code ครั้งเดียวสามารถใช้ได้ทั้ง IOS และ Andriod และสามารถใช้ภาษาอะไรในการเขียน code ก็ได้
ติดตั้งโปรแกรมสำหรับทดสอบ application (สำหรับ window)
ติดตั้ง JAVA หรือ JDK 8
1. เข้าไปดาวน์โหลด JDK 8 ตามลิงค์ดังนี้ ลิงค์ดาวน์โหลด โดยเลือกประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการติดตั้ง โดยในที่นี้จะใช้เป็น Window
2. เลือกดาวน์โหลด openJDK 8 ตามประเภทของเครื่อง ตามรูปตัวอย่างเป็นการดาวน์โหลดลงเครื่อง Window64x
3. เมื่อได้ไฟล์ในการติดตั้งมาแล้ว ให้ทำการติดตั้งลงคอมพิวเตอร์
4. เพิ่ม JAVA ใน System Environment โดยต้องเพิ่ม JAVA_HOME ให้ทำการเพิ่ม Variable JAVA_HOME โดยใส่ค่า Value เป็น Path ที่เราทำการติดตั้ง JDK โดยไปที่ : C:\Program Files\Eclipse Adoptium\jdk<xxx>
* แก้ <xxx> เป็น version ที่โหลดมา
หมายเหตุ : ค่าตรง Folder Eclipse Adoptium อาจเปลี่ยนไปตามแหล่งที่เราทำการดาวน์โหลด JDK มาให้ทำการตรวจสอบว่าโฟลเดอร์ที่ทำการจัดเก็บ JDK เป็นโฟลเดอร์ไหน
โดยวิธีการเพิ่มให้ทำการ กดที่ปุ่ม Start > พิมพ์คำว่า System > เลือกเมนู Edit the system environment variables
5. เลือก Environment Variables
6. Environment Variables
7. พิมพ์ข้อมูลสำหรับเพิ่ม JAVA_HOME
ติดตั้ง Android Studio
1. ไปที่ลิงค์สำหรับการดาวน์โหลด ลิงค์ดาวน์โหลด Android Studio
2. ทำการดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม โดยเมื่อติดตั้งโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยให้ไปทำการเพิ่ม ANDROID_HOME ใน System Environment โดยไปทำการเพิ่ม
ติดตั้ง Node.js
โดยสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้จาก https://nodejs.org/en/download/