Automation vs Manual Testing อะไรยังจำเป็น ในปี 2025 ?

Automation vs Manual Testing อะไรยังจำเป็น ในปี 2025 ?

ในปี 2025 โลกของซอฟต์แวร์วิ่งเร็วกว่าเดิม เทคโนโลยีใหม่ผุดขึ้นทุกวัน ธุรกิจเร่งเปิดตัวแอปพลิเคชันให้ทันกระแส คำถามสำคัญที่ทั้งเจ้าของธุรกิจและทีม QA ต้องตอบให้ได้คือ... "เราควรใช้ Automation Testing เต็มรูปแบบ หรือยังต้องมี Manual Testing อยู่ในแผน?" คำตอบคือ ทั้งสองอย่าง "ยังจำเป็น" และ "ควรใช้ร่วมกัน" อย่างชาญฉลาด

Automation Testing – เมื่อหุ่นยนต์ช่วย QA ได้เร็วขึ้น

Automation Testing คือการใช้เครื่องมือหรือสคริปต์ในการรันชุดทดสอบซ้ำ ๆ โดยอัตโนมัติ เช่น ทดสอบหน้า login, ตรวจสอบระบบจ่ายเงิน หรือ flow สำคัญต่าง ๆ

✅ ข้อดี:

  • ประหยัดเวลา: ทดสอบเร็ว ซ้ำได้ตลอด
  • ลด human error: แม่นยำกว่าการคลิกด้วยมือ
  • เหมาะกับ regression test และฟีเจอร์ที่ไม่เปลี่ยนบ่อย
  • ทำงานได้ตลอด 24 ชม.

❌ ข้อจำกัด:

  • ใช้เวลาสร้างสคริปต์สูงในช่วงแรก
  • ต้องดูแลและอัปเดตบ่อย ถ้า UI เปลี่ยน
  • ไม่เหมาะกับการทดสอบ UX หรือ edge case แปลก ๆ

เครื่องมือยอดนิยมในปี 2025:

  • Playwright – รันได้เร็ว ใช้งานง่าย
  • Katalon – เหมาะกับทีมไม่เขียนโค้ด
  • Testim (AI-powered) – สร้าง test case อัตโนมัติ
  • Robot Framework – สาย Python ต้องรู้จัก

Manual Testing – มนุษย์ยังคงสำคัญ

Manual Testing คือการให้คนจริง ๆ เข้าไปทดลองใช้งานระบบ และตรวจสอบผลลัพธ์ด้วยสายตาและประสบการณ์ อาจจะฟังดู “คลาสสิก” แต่ก็ยังจำเป็นในหลายกรณี

✅ ข้อดี:

  • เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้จริง
  • ค้นหาปัญหาที่ซ่อนอยู่ เช่น คำผิด UX งง
  • ตรวจสอบระบบใหม่ หรือที่ยังไม่ stable
  • ดีต่อ Exploratory Test (สำรวจระบบเพื่อหาบั๊กใหม่ ๆ)

❌ ข้อจำกัด:

  • ใช้เวลามาก
  • เสี่ยงเกิด human error
  • ไม่เหมาะกับงานที่ต้องรันซ้ำบ่อย ๆ

Automation vs Manual Testing ควรใช้ร่วมกันยังไงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด?

ในปี 2025 กลยุทธ์ที่ดีที่สุดไม่ใช่เลือกข้าง แต่คือการ “บาลานซ์” ให้เหมาะสมกับธุรกิจ

สถานการณ์

ใช้ Manual

ใช้ Automation

ฟีเจอร์ใหม่

❌ (ยังไม่เสถียร)

Regression Testing

UX/UI Testing

Critical Workflow (เช่น Checkout)

✅ + Automation เพื่อ backup

High Load Testing

Exploratory Testing

งานที่ต้องรันซ้ำหลายรอบ

สำหรับเจ้าของธุรกิจ – แล้วควรเริ่มตรงไหน?

  • ถ้าอยาก ลดเวลาการส่งมอบ และเพิ่มความแม่นยำ → ลงทุนใน Automation
  • ถ้าเน้น ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี → อย่าลืมให้ทีม QA ทำ Manual อย่างใส่ใจ
  • ถ้าระบบกำลังพัฒนาใหม่ → เริ่มด้วย Manual แล้วค่อยทยอยแปลงเป็น Automation

Tip: อย่าลงทุนทั้งหมดกับ Automation ถ้าไม่มีคนดูแล Test Script เพราะจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่ไร้ประโยชน์

สำหรับ QA – จะพัฒนาอย่างไรให้เท่าทันปี 2025?

  1. ต้องใช้ทั้งสองแบบเป็น – เป็น QA ที่เข้าใจ Manual และเขียน Automation ได้
  2. เข้าใจระบบธุรกิจ – เลือกจุดที่ควร Automate เพื่อประหยัดเวลา
  3. เรียนรู้เครื่องมือใหม่อยู่เสมอ – โดยเฉพาะ AI-powered testing tools
  4. สื่อสารกับ Dev ได้ดี – ทั้งในแง่เทคนิคและการ prioritize บั๊ก

สรุป

  • Manual Testing ยังจำเป็น โดยเฉพาะเรื่อง UX, Exploratory และระบบใหม่
  • Automation Testing ช่วยลดเวลา ทำให้ทดสอบได้ไวและแม่นยำ
  • การใช้ร่วมกันอย่างสมดุล จะทำให้ระบบทั้ง เร็ว เสถียร และใช้งานได้จริง

หากคุณกำลังมองหาทีม QA ที่วางแผน Manual + Automation ได้อย่างลงตัว
 QSquad พร้อมให้คำปรึกษาและลงมือทดสอบอย่างมืออาชีพ